ตำจั๊กจั่น (ตำป่นจั๊กจั่น)
มื้อนี้ฅนภูไทเอาอาหารพื้นบ้านของคนอีสานมาฝากอีกแล้วค่ะ เป็นอาหารที่หากินได้เฉพาะฤดูกาล ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับจั๊กจั่นก่อนค่ะ ว่ามันมีความเป้นมาแบบได่ กว่าไทบ้านเฮาสิไปติดมาป่น
มากินได้ใช้ระยะเวลานานส่ำได๋
ชื่อภาษาไทย : จักจั่น
ชื่อภาษาอีสาน : จักจั่น, เร่อย (เขมร)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cicada
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Meimuna opalifera Walker, Pompania sp.
Order : Homoptera
Family : Cicadidae
ลักษณะทางกายภาพ
จักจั่นถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้เมื่อราว 230-295 ล้านปีก่อน ในยุคไทรแอสสิก (Triassic) นักวิทยาศาสตร์ได้จัดให้จักจั่นเป็นแมลงอยู่ในอันดับ (Order) Homoptera ซึ่งเป็นกลุ่มของแมลงที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชเป็นอาหาร เช่นเพลี้ยชนิดต่างๆ ครั่ง แมลงหวี่ขาว
ลักษณะที่เด่นชัดของแมลงในอันดับนี้ก็คือ ปีกคู่หน้ามีลักษณะและขนาดความหนาของเนื้อปีกเท่ากันตลอดทั้งแผ่นปีก ชื่ออันดับที่มาจากลักษณะเด่นที่ว่านี้ คือ homo แปลว่า เหมือนกัน, เท่ากัน ส่วน ptera แปลว่า ปีก ซึ่งจะหนาทึบหรือบางใสก็ได้แล้วแต่ชนิดของแมลง ปีกของจักจั่นจะบางใสเหมือนกันทั้งแผ่นปีก
จักจั่นเป็นแมลงที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในบรรดาแมลงอันดับนี้ทั้งหมด คือมีขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป จนถึงบางชนิดที่ มีขนาดตัวยาวกว่า 10 เซนติเมตร มีหนวดสั้นๆ (หนวดแบบขน-setaceoux) จนเกือบจะมองไม่เห็นดูคล้ายปุ่มเล็กๆ มากกว่าที่จะเป็นหนวด มีตาเดี่ยวสามตา ส่วนหัว ลำตัว ท้อง จะเชื่อมต่อกลมกลืนเป็นส่วนเดียวกัน ปีกคู่หน้าจะบางใส
วงจรชีวิตของจักจั่น
ช่วงชีวิตของจักจั่นเป็นดังนี้
ไข่ (4 เดือน) - วางไข่ใต้เปลือกไม้
ตัวอ่อน (4-6ปี) - ใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน ดูดกินน้ำเลี้ยงจากรากไม้เป็นอาหาร
ตัวเต็มวัย (1-2 เดือน) - อาศัยอยู่ตามต้นไม้ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้เป็นอาหาร
ตัวผู้ทำเสียงได้ดังมาก ประมาณ 200 เดซิเบลตัวเมียไม่สามารถทำเสียงได้
จั๊กจั่นที่หามาได้ ส่วนวิธีการกะต้องใช้ตัง(ยางไม้)ไปติดเอาตามต้นไม้
พอได้จั๊กจั่นมาแล้วเฮากะเด็ดปีกแล้วเอาไปล้างทำความสะอาด ตำจั๊กจั่นต้องใส่บักม่วงน้อยเด้อ จั่งสิเข้ากัน ส่วนบักม่วงอย่างอื่นบ่แนะนำค่ะ
มาเริ่มกันเลย ขั้นตอนแรกเฮากะจัดการตำจักจั่นให้แหลกก่อน แล้วจั่งใส่บักม่วงน้อยลงไปตำให้ละเลียดอีกที
ทีนี้เฮากะมาปรุงกันเลย ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว ต้นหอมผักชีผักหอมเป สะระแหน่ น้ำปลาแดกลงไป ตำให้เข้ากัน ปรุงรสตามใจชอบ
ตักใส่ถ้วยเสริฟพร้อมข้าวเหนียวฮ้อน พร้อม ผักกระโดนน้ำ ผักติ้ว
มื้อนี้ฅนภูไทเอาอาหารพื้นบ้านของคนอีสานมาฝากอีกแล้วค่ะ เป็นอาหารที่หากินได้เฉพาะฤดูกาล ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับจั๊กจั่นก่อนค่ะ ว่ามันมีความเป้นมาแบบได่ กว่าไทบ้านเฮาสิไปติดมาป่น
มากินได้ใช้ระยะเวลานานส่ำได๋
ชื่อภาษาอีสาน : จักจั่น, เร่อย (เขมร)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cicada
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Meimuna opalifera Walker, Pompania sp.
Order : Homoptera
Family : Cicadidae
ลักษณะทางกายภาพ
จักจั่นถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้เมื่อราว 230-295 ล้านปีก่อน ในยุคไทรแอสสิก (Triassic) นักวิทยาศาสตร์ได้จัดให้จักจั่นเป็นแมลงอยู่ในอันดับ (Order) Homoptera ซึ่งเป็นกลุ่มของแมลงที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชเป็นอาหาร เช่นเพลี้ยชนิดต่างๆ ครั่ง แมลงหวี่ขาว
ลักษณะที่เด่นชัดของแมลงในอันดับนี้ก็คือ ปีกคู่หน้ามีลักษณะและขนาดความหนาของเนื้อปีกเท่ากันตลอดทั้งแผ่นปีก ชื่ออันดับที่มาจากลักษณะเด่นที่ว่านี้ คือ homo แปลว่า เหมือนกัน, เท่ากัน ส่วน ptera แปลว่า ปีก ซึ่งจะหนาทึบหรือบางใสก็ได้แล้วแต่ชนิดของแมลง ปีกของจักจั่นจะบางใสเหมือนกันทั้งแผ่นปีก
จักจั่นเป็นแมลงที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในบรรดาแมลงอันดับนี้ทั้งหมด คือมีขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป จนถึงบางชนิดที่ มีขนาดตัวยาวกว่า 10 เซนติเมตร มีหนวดสั้นๆ (หนวดแบบขน-setaceoux) จนเกือบจะมองไม่เห็นดูคล้ายปุ่มเล็กๆ มากกว่าที่จะเป็นหนวด มีตาเดี่ยวสามตา ส่วนหัว ลำตัว ท้อง จะเชื่อมต่อกลมกลืนเป็นส่วนเดียวกัน ปีกคู่หน้าจะบางใส
วงจรชีวิตของจักจั่น
ช่วงชีวิตของจักจั่นเป็นดังนี้
ไข่ (4 เดือน) - วางไข่ใต้เปลือกไม้
ตัวอ่อน (4-6ปี) - ใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน ดูดกินน้ำเลี้ยงจากรากไม้เป็นอาหาร
ตัวเต็มวัย (1-2 เดือน) - อาศัยอยู่ตามต้นไม้ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้เป็นอาหาร
ตัวผู้ทำเสียงได้ดังมาก ประมาณ 200 เดซิเบลตัวเมียไม่สามารถทำเสียงได้
จั๊กจั่นที่หามาได้ ส่วนวิธีการกะต้องใช้ตัง(ยางไม้)ไปติดเอาตามต้นไม้
พอได้จั๊กจั่นมาแล้วเฮากะเด็ดปีกแล้วเอาไปล้างทำความสะอาด ตำจั๊กจั่นต้องใส่บักม่วงน้อยเด้อ จั่งสิเข้ากัน ส่วนบักม่วงอย่างอื่นบ่แนะนำค่ะ
มาเริ่มกันเลย ขั้นตอนแรกเฮากะจัดการตำจักจั่นให้แหลกก่อน แล้วจั่งใส่บักม่วงน้อยลงไปตำให้ละเลียดอีกที
ทีนี้เฮากะมาปรุงกันเลย ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว ต้นหอมผักชีผักหอมเป สะระแหน่ น้ำปลาแดกลงไป ตำให้เข้ากัน ปรุงรสตามใจชอบ
ตักใส่ถ้วยเสริฟพร้อมข้าวเหนียวฮ้อน พร้อม ผักกระโดนน้ำ ผักติ้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น